ธุรกิจของคุณพร้อมรับมือหรือยัง? แผ่นดินไหวครั้งนี้เตือนให้เราปกป้องข้อมูลสำคัญ!
เมื่อภัยพิบัติเกิดขึ้น… ระบบธุรกิจต้องไม่ล่ม!
แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเป็นเครื่องเตือนใจว่า ภัยธรรมชาติสามารถส่งผลกระทบต่อธุรกิจได้ทุกเมื่อ ไม่เพียงแต่โครงสร้างอาคารที่ได้รับความเสียหาย แต่ระบบ IT และข้อมูลสำคัญขององค์กรก็อาจได้รับผลกระทบเช่นกัน
หากไม่มีการเตรียมพร้อมที่ดีพอ ข้อมูลธุรกิจที่สำคัญอาจสูญหาย ระบบ ERP หรือฐานข้อมูลลูกค้าอาจล่ม ส่งผลให้ธุรกิจหยุดชะงัก และอาจต้องใช้เวลานานในการกู้คืน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้และชื่อเสียงขององค์กร
ธุรกิจของคุณเสี่ยงต่ออะไรบ้างเมื่อเกิดแผ่นดินไหว?
✅ การสูญหายของข้อมูล – หากไม่มีระบบสำรองข้อมูล ข้อมูลที่สำคัญอาจหายไปอย่างถาวร
✅ Downtime ระบบล่ม – ระบบ IT ที่ไม่ได้เตรียมพร้อมอาจหยุดทำงาน ทำให้ธุรกิจไม่สามารถดำเนินต่อไปได้
✅ ความล่าช้าในการกู้คืนระบบ – ธุรกิจที่ไม่มีแผน Disaster Recovery (DR) อาจต้องใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ในการกลับมาดำเนินงาน
✅ ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า – หากไม่สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ลูกค้าอาจสูญเสียความไว้วางใจ
ปกป้องธุรกิจของคุณด้วย Backup และ Disaster Recovery (DR) ที่มีประสิทธิภาพ
🔹 Backup – เกราะป้องกันข้อมูลสำคัญของธุรกิจ
การสำรองข้อมูล (Backup) เป็น แนวป้องกันด่านแรก ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถกู้คืนข้อมูลที่สูญหายได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดภัยพิบัติ
แนวทางสำคัญในการสำรองข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ:
📌 สำรองข้อมูลอัตโนมัติ – ลดความผิดพลาดจากการสำรองข้อมูลด้วยตนเอง
📌 ใช้หลัก 3-2-1 Backup Rule – มีสำเนาข้อมูลอย่างน้อย 3 ชุด บน 2 สื่อที่แตกต่างกัน และ 1 ชุดอยู่นอกสถานที่
📌 เข้ารหัสและป้องกันข้อมูล – เพื่อความปลอดภัยจากการโจมตีทางไซเบอร์และการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
📌 ทดสอบการกู้คืนข้อมูลเป็นประจำ – เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลสามารถกู้คืนได้จริงเมื่อจำเป็น
🔹 Disaster Recovery – ระบบกู้คืนธุรกิจให้เดินหน้าต่อได้อย่างรวดเร็ว
Disaster Recovery (DR) เป็นแผนการกู้คืนระบบ เพื่อลด Downtime และช่วยให้ธุรกิจกลับมาดำเนินงานได้เร็วที่สุด
องค์ประกอบสำคัญของ Disaster Recovery ที่มีประสิทธิภาพ:
✔ DR Site หรือ Cloud DR – มีศูนย์สำรองข้อมูลและระบบในสถานที่ที่ปลอดภัย หรือใช้ระบบ Cloud DR ที่พร้อมใช้งานทันที
✔ Failover และ Failback – ระบบสามารถเปลี่ยนไปใช้ DR Site ได้อัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุ และสลับกลับเมื่อสถานการณ์ปกติ
✔ Recovery Time Objective (RTO) และ Recovery Point Objective (RPO) – กำหนดระยะเวลาที่ต้องการให้ระบบกลับมาออนไลน์ และช่วงเวลาข้อมูลล่าสุดที่สามารถกู้คืนได้
✔ การทดสอบแผน DR เป็นระยะ – ตรวจสอบว่าแผนกู้คืนระบบทำงานได้จริงเมื่อเกิดเหตุการณ์จริง
🔹 3 ขั้นตอนเตรียมความพร้อมสำหรับธุรกิจของคุณ
1️⃣ ประเมินความเสี่ยงขององค์กร
- ตรวจสอบว่าข้อมูลและระบบใดมีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ
- วิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากภัยพิบัติ
2️⃣ วางแผน Backup & DR ให้เหมาะสม
- เลือกโซลูชัน Backup และ DR ที่ตอบโจทย์ธุรกิจของคุณ
- กำหนด RTO และ RPO ให้สอดคล้องกับความต้องการขององค์กร
3️⃣ ทดสอบแผนและปรับปรุงเป็นประจำ
- ทดสอบระบบ Backup และ DR เป็นระยะ เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถใช้งานได้จริง
- อัปเดตแผนให้ทันสมัยตามเทคโนโลยีและความต้องการของธุรกิจ
ทำไมต้องเลือก A-HOST ในการปกป้องข้อมูลของคุณ?
🔹 โซลูชัน Backup และ DR ครบวงจร – พร้อมรองรับทุกสถานการณ์ฉุกเฉิน
🔹 ทีมผู้เชี่ยวชาญดูแลตลอด 24/7 – ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุ
🔹 เทคโนโลยีที่ทันสมัย – ใช้ระบบ Cloud, AI, และ Automation ช่วยป้องกันและกู้คืนข้อมูลอย่างรวดเร็ว
🔹 ความปลอดภัยระดับสูง – ปกป้องข้อมูลจากภัยพิบัติและภัยคุกคามทางไซเบอร์
อย่าปล่อยให้ภัยพิบัติทำลายธุรกิจของคุณ!
แผ่นดินไหวเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่ เราสามารถป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับข้อมูลและระบบของธุรกิจได้ ด้วย Backup & Disaster Recovery ที่มีประสิทธิภาพ
📢 อย่ารอจนสายเกินไป! ติดต่อเราวันนี้ เพื่อรับคำปรึกษาฟรีเกี่ยวกับแผนป้องกันและกู้คืนระบบของธุรกิจคุณ
📞 โทร 02-298-0625-32 ต่อ 4509 | ✉️ E-Mail: channelmarketing@a-host.co.th 🌐 www.a-host.co.th
ปกป้องธุรกิจของคุณตั้งแต่วันนี้ เพื่ออนาคตที่มั่นคงและไร้กังวล! ⏳💼