เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป การดำเนินธุรกิจในปัจจุบันย่อมมีการแข่งขันที่สูงตาม หลายองค์กรเริ่มปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจด้วยการบริหารองค์กรภายใต้การกำกับดูแลกิจการให้สอดคล้องไปกับ “ความยั่งยืน” มากขึ้น ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าองค์กรเล็ก-ใหญ่ ได้เริ่มหันมาขับเคลื่อนธุรกิจของตัวเองตามหลัก SDGs (Sustainable Development Goals) เพื่อแสดงให้เห็นการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคมส่วนรวม
แล้ว Cloud เกี่ยวข้องอะไรกับความยั่งยืน?
การนำ Cloud มาใช้กับระบบเป็นการส่งเสริมและรองรับการเติบโตขององค์กรได้อย่างยั่งยืน เช่น เพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการเข้าถึง ตอบโจทย์ธุรกิจในการให้บริการลูกค้าผ่านอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องเดินทาง ในแง่ของการการเพิ่ม-ลดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลก็สามารถทำได้ ถ้าหากธุรกิจมีการขยายตัว โดยที่ไม่ต้องซื้อฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์เพิ่ม ซึ่งตัวอย่างบริษัทฯ ผู้ให้บริการ Cloud ที่เล็งเห็นจุดนี้ได้แก่ Oracle, Google Could, AWS, Microsoft และอื่น ๆ
Oracle Could หนึ่งในบริษัทที่ขับเคลื่อนความยั่งยืน
Oracle Could นับว่าเป็นหนึ่งในบริษัทฯ ที่มีความมุ่งมั่นในการลด Environment Footprint ด้วยการใช้เทคโนโลยีระบายความร้อนที่ทันสมัยและใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่า โดยทาง Oracle ได้มีการตั้งเป้าหมายในการใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ในปี 2025 ซึ่งปัจจุบันมีการใช้พลังงานหมุนเวียนไปแล้ว 81% และมียอดการปล่อยมลพิษลดลงสูงถึง 47% รวมไปถึงซัพพลายเออร์ต่าง ๆ ของ Oracle เองก็มีการให้ความสำคัญในเรื่องของความยั่งยืนด้วยเช่นกัน
Green Could มีประโยชน์อย่างไรต่อองค์กร
– ลดค่าใช้จ่ายลง
ผู้ใช้บริการคลาวด์สามารถพิจารณาและเลือกตัวเลือกที่เหมาะสมได้ เป็นการเลือกใช้ทรัพยากรอย่างชาญฉลาด ซึ่งการเลือก Cloud ที่ให้ความยืดหยุ่น สามารถปรับ-ลดขนาดพื้นที่ตามการเติบโตของบริษัทได้โดยที่เสียค่าใช้จ่ายตามที่เลือกใช้ และการรีเฟรชฮาร์ดแวร์ใหม่ จะช่วยประหยัดพลังงานมากขึ้นในระยะยาว พลังงานจะถูกใช้น้อยลง และบริษัทจะประหยัดงบมากขึ้น
– ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้
การนำข้อมูลขึ้นคลาวด์ ทำให้พนักงานสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปออฟฟิศ ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนด์ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความยืดหยุ่นให้พนักงาน ที่ไม่ต้องรับความกดดัน และสามารถสร้าง performance ออกมาดีได้
– ขับเคลื่อนด้วยพลังงานหมุนเวียน
ผู้ให้บริการ Cloud ส่วนใหญ่จะมีการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น โซลาร์เซลล์ พลังงานลม พลังงานไฟฟ้า จะช่วยลดก๊าซเรือนกระจก และลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลได้มากกว่า 80% หากองค์กรใดให้ความสำคัญเรื่องคาร์บอนเครดิต สามารถนำไปพิจารณาในการขับเคลื่อนเป็นองค์กร ESG ได้
– ลดการใช้ไฟฟ้า
ระบบแบบ On-Premise จำเป็นต้องดูแล Data Centre พร้อมกับมีระบบเครื่องทำความเย็นทำงานควบคู่กันไปตลอด ดังนั้น การย้ายซอฟต์แวร์ขึ้นคลาวด์ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าได้ จากกรณีศึกษาของ LBNL (Lawrence Berkeley National Laboratory) พบว่าการย้ายระบบ CRM, Email จะช่วยประหยัดไฟฟ้าสูงถึง 87%
– อัตราการใช้ประโยชน์เพิ่มขึ้น
การใช้ระบบแบบ On-Cloud สามารถใช้ Server ได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานของ Public Cloud จะมีประสิทธิภาพมากกว่า 2-4 เท่าของ Data Centre แบบเก่า พร้อมทั้งมีโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ดีกว่า
แน่นอนว่า Green Cloud ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้องค์กรมีการบริหารที่ดี ดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน และพร้อมรับมือกับความเสี่ยงทางธุรกิจในอนาคตได้ A-HOST ในฐานะที่ปรึกษา และผู้ให้บริการทางด้าน IT Solution อย่างครบวงจร มามากกว่า 25 ปี เราพร้อมแล้วที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยองค์กรของท่านขับเคลื่อนธุรกิจ ควบคู่ไปกับการยกระดับองค์กรสู่ยุค Digital Transformation
อ้างอิงข้อมูลจาก :
Sustainability: Operations | Oracle
Cloud Computing Sustainability: How Green Is the Cloud? (linkedin.com)
———-