ธุรกิจไม่เสี่ยง แผนสำรองต้องมี!!
ทำไมองค์กรธุรกิจจึงจำเป็นจะต้องมี Backup and Disaster Recovery เพื่อลดความเสี่ยงและความเสียหายที่เกิดจากเหตุขัดข้องของระบบ IT
โลกดิจิทัลในปัจจุบัน การเกิดเหตุขัดข้องกับระบบภายในต่างๆ อาจเป็นหายนะอันใหญ่หลวงของหลายๆ องค์กรได้เลยทีเดียว เมื่อระบบสารสนเทศเกิดการล้มเหลวหรือเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น อาจก่อให้เกิดการสูญเสียทรัพย์สินหรือข้อมูลที่สำคัญ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายตามมาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบต่อรายได้ ความเชื่อใจที่มีต่อผู้ใช้บริการ และขวัญกำลังใจของเหล่าบุคลากรภายในองค์กร ด้วยเหตุนี้เอง การสำรองและกู้คืนข้อมูลจากภัยพิบัติ หรือ Backup and Disaster Recovery (BDR) จึงเป็นหนึ่งในแผนกลยุทธ์สำคัญสำหรับทุกองค์กรไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ และในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ BDR และทำไมมันจึงมีความสำคัญในการช่วยลดความเสียหายที่เกิดจากการเกิดเหตุขัดข้องกัน
ความเสียหายที่เกิดขึ้นเมื่อมีเหตุขัดข้อง
การเกิดเหตุขัดข้องหรือการหยุดทำงานกระทันหันของระบบในระหว่างการดำเนินงาน นับเป็นหนึ่งในความเสียหายราคาแพงในทุกภาคธุรกิจ ไม่ว่าองค์กรจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ก็ตาม ยิ่งระบบขององค์กรเกิดการขัดข้องบ่อยหรือหยุดการทำงานนานเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะสูญเสียรายได้ ผลผลิต และชื่อเสียงขององค์กรมากขึ้นเท่านั้น
จากผลการศึกษาล่าสุดพบว่า การเกิดเหตุขัดข้องหรือการหยุดทำงานกระทันหันของระบบสร้างความเสียหายให้กับองค์กรธุรกิจต่างๆ โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 100,000 – 300,000 ดอลลาห์สหรัฐต่อชั่วโมง หรือคิดเป็นเงินไทยโดยเฉลี่ยประมาณ 3 ล้าน ถึง 13 ล้านบาทต่อชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งในผลการสำรวจนี้นับรวมทั้งต้นทุนและรายได้ที่ต้องสูญเสียไปโดยตรงระหว่างเกิดเหตุขัดข้อง และต้นทุนด้านผลผลิตที่ต้องสูญเสียไปในทางอ้อม รวมไปถึงค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องใช้เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหา และรายได้ที่อาจจะสูญเสียไปจากการเปลี่ยนใจในการเลือกใช้บริการจากผู้บริโภคอีกด้วย
ความสำคัญในการสำรองและกู้คืนข้อมูลจากภัยพิบัติ
กลยุทธ์ BDR นับเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับกลยุทธ์ด้าน IT สำหรับองค์กร ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่าระบบที่สำคัญจะสามารถถูกซ่อมแซมกู้คืนได้อย่างรวดเร็วในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือไฟฟ้าดับ กลยุทธ์ BDR นี้จะครอบคลุมตั้งแต่การสำรองข้อมูลขั้นพื้นฐาน การจำลองข้อมูลและส่งไปยังพื้นที่อื่นเพื่อทำการสำรองเก็บชั่วคราว และการกู้คืนความเสียหายระบบให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ ทั้งยังรวมไปถึงการทดสอบและตรวจสอบกระบวนการขั้นตอนกู้คืนข้อมูลและระบบ เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการกู้คืนระบบต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด
แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากปัญหาเหล่านี้
เป้าหมายหลักในการเลือกใช้กลยุทธ์ BDR คือการลดอัตราการเกิดปัญหาการหยุดทำงานกระทันหันของระบบและลดค่าความเสียหายอันเกี่ยวข้องที่อาจเกิดขึ้น ด้วยกลยุทธ์ BDR ที่มั่นคง องค์กรจะสามารถลดระยะเวลาที่ใช้ในการกู้คืนระบบที่ล้มเหลวให้กลับมาทำงานได้ปกติ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบที่อาจเกิดกับรายได้และผลผลิตขององค์กร อีกทั้งกลยุทธ์ BDR ที่ดีจะสามารถช่วยให้องค์กรหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาการสูญเสียข้อมูล ลดความเสี่ยงจากการถูกลงโทษตามกฎระเบียบหรือตามข้อกฏหมาย และคงไว้ซึ่งความเชื่อใจที่ผู้ใช้บริการมีให้ต่อองค์กรได้อีกด้วย
ทั้งหมดนี้จึงสามารถสรุปได้ว่า เหตุขัดข้องหรือการหยุดทำงานกระทันหันของระบบนับเป็นปัญหาราคาแพงสำหรับทุกๆ องค์กร และการมีกลยุทธ์ BDR ที่ดีจะเป็นตัวช่วยสำคัญในการป้องกันการเกิดปัญหาดังกล่าวและลดความเสียหายที่เกิดขึ้นตามมาซึ่งจะส่งผลเสียต่อองค์กรธุรกิจ และด้วยกลยุทธ์ BDR ที่มั่นคง จะช่วยลดผลกระทบที่เกิดจากปัญหาภัยพิบัติและระบบสารสนเทศที่ขัดข้อง ลดปัญหาการเกิดข้อมูลสูญหาย และรักษาไว้ซึ่งความไว้วางใขของผู้ใช้บริการ
ในโลกดิจิทัลที่ไม่เคยหยุดนิ่งในทุกวันนี้ การมีแผนสำรองไว้นั้นไม่ได้จัดว่าเป็นการใช้งบประมาณอย่างฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็นอีกต่อไป แต่คือความสำคัญสำหรับทุกองค์กรธุรกิจ เพื่อการรับมือและป้องกันกระบวนการดำเนินงานจากความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับปัญหาด้านระบบสารสนเทศ และการคงไว้ซึ่งความเหนือกว่าในการแข่งขันท่ามกลางท้องตลาดในยุคปัจจุบัน
หากองค์กรธุรกิจใด สนใจการวางแผนหรือปรับปรุงระบบงาน Backup and Disaster Recovery (BDR)
——–
เกี่ยวกับ A-HOST
บริษัท เอ-โฮสต์ จำกัด ตัวแทนพาร์ทเนอร์ Microsoft และ Oracle เราเป็นผู้ให้บริการระบบสารสนเทศชั้นนำ ด้วยความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการทำโครงการสำคัญ ๆ มากมาย ให้กับทั้งภาครัฐ และเอกชน
เอ-โฮสต์ ยังเป็นผู้ให้บริการออกแบบโซลูชั่นที่เหมาะสม สำหรับองค์กรที่กำลังมองหาโซลูชั่นในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจด้วย Digital Transformation อย่างยั่งยืน
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอ-โฮสต์ (A-HOST) ได้ที่ www.a-host.co.th